ในสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน องค์กรต่างๆ ต้องปรับกลยุทธ์ด้านค่าตอบแทนเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน ดึงดูดคนเก่ง และรักษาพนักงาน การรักษาโครงสร้างค่าตอบแทนให้ทันสมัยไม่ใช่เพียงแค่การตอบสนองต่อแรงกดดันจากตลาดเท่านั้น แต่เป็นการสร้างแนวทางที่ยั่งยืนซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร นี่คือหกขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้นำด้านทรัพยากรบุคคลในการทำให้แนวปฏิบัติด้านค่าตอบแทนยังคงมีความเกี่ยวข้อง เป็นธรรม และมีประสิทธิผล

 

1. อ่านตลาดให้ออก และ ปรับตัวให้ทัน

การติดตามแนวโน้มและสภาวะของตลาดอย่างใกล้ชิดเป็นขั้นตอนแรกในการรักษาแนวปฏิบัติด้านค่าตอบแทนให้มีความสามารถในการแข่งขัน การเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าของบทบาทต่างๆ ในอุตสาหกรรมของคุณเป็นสิ่งสำคัญ นี่ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การติดตามแนวโน้มเงินเดือนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในความต้องการทักษะเฉพาะด้าน การปรับตัวตามความผันผวนทางเศรษฐกิจ และการทำให้แน่ใจว่าองค์กรของคุณอยู่ในตำแหน่งที่เป็นตัวเลือกชั้นนำสำหรับคนเก่งที่มีผลงานดี การ "แสดงตัว" ในตลาดด้วยข้อเสนอที่แข่งขันได้ บริษัทต่างๆ สามารถดึงดูดและรักษาพนักงานหลักได้ดีขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าแรงงานของพวกเขายังคงแข็งแกร่งและมีแรงจูงใจ

ดังนั้น การเข้าร่วม หรือ การทำสำรวจค่าจ้างและสวัสดิการจึงมีความสำคัญมากขึ้นในยุคการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วแบบนี้ เพื่อให้เรามีข้อมูลที่อ้างอิงได้ และเมื่อติดตามแล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะปรับปรุงโครงสร้างในการจ่ายของเราให้แข่งขันได้ด้วย เนื่องจากเรายังต้องการดึงดูด และเก็บรักษาคนเก่งให้ทำงานอยู่กับเรา

การอ่านตลาดค่าตอบแทนให้ออกเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญของผู้นำด้านทรัพยากรบุคคล (HR) ซึ่งไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการศึกษาแนวโน้มค่าจ้างเท่านั้น แต่ยังต้องเข้าใจความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจโดยรวม การที่ HR สามารถตีความและประยุกต์ใช้ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้องค์กรสามารถตั้งค่าตอบแทนที่เหมาะสมและแข่งขันได้ในตลาด

การติดตามแนวโน้มค่าตอบแทนช่วยให้ HR รู้ว่าองค์กรอยู่ในตำแหน่งใดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างค่าจ้างและสวัสดิการให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและทักษะที่เปลี่ยนไป นอกจากนี้ยังช่วยในการวางแผนกลยุทธ์ในการดึงดูดและรักษาพนักงานคนเก่ง โดยไม่เพียงแค่การเพิ่มเงินเดือน แต่ยังรวมถึงการสร้างแพ็คเกจสวัสดิการที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานในปัจจุบัน

การทำสำรวจค่าจ้างเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ HR มีข้อมูลที่สามารถนำมาใช้ในการเปรียบเทียบและวิเคราะห์ เพื่อให้สามารถตั้งค่าตอบแทนที่ยุติธรรมและเหมาะสม โดยการสำรวจนี้ควรทำเป็นประจำ เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงโครงสร้างค่าตอบแทนให้ทันสมัยอยู่เสมอ

การอ่านตลาดให้ขาดยังช่วยให้ HR สามารถระบุทักษะที่เป็นที่ต้องการในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการวางแผนการพัฒนาและฝึกอบรมพนักงาน เพื่อให้พนักงานมีความสามารถที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด การพัฒนาทักษะของพนักงานไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน แต่ยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจและความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร

สุดท้าย การที่ HR มีความเข้าใจและสามารถอ่านตลาดค่าตอบแทนได้อย่างแม่นยำ จะช่วยให้องค์กรสามารถตั้งค่าตอบแทนที่เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยดึงดูดและรักษาพนักงานคนเก่ง แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงให้กับองค์กรในระยะยาว

 

2. รักษาระบบให้มีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลง

โครงสร้างค่าตอบแทนที่ไม่ยืดหยุ่นอาจก่อให้เกิดปัญหาเมื่อองค์กรเติบโตหรือสภาวะตลาดเปลี่ยนแปลงไป ความยืดหยุ่นเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการปรับช่วงเงินเดือน การแนะนำสวัสดิการใหม่ๆ หรือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างแรงจูงใจ ระบบค่าตอบแทนของคุณต้องสามารถพัฒนาได้ ระบบที่ยืดหยุ่นช่วยให้สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและทำให้มั่นใจได้ว่าค่าตอบแทนยังคงสะท้อนถึงคุณค่าที่พนักงานนำมาสู่องค์กร นอกจากนี้ยังป้องกันความไม่เท่าเทียมที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปเนื่องจากมาตราเงินเดือนที่ล้าสมัย

ในการดำเนินการตามนี้ อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนขั้นตอนในการขออนุมัติเกี่ยวกับค่าตอบแทน และสวัสดิการให้ไวขึ้น เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด รวมทั้งให้มีระบบในการเสนอแนวทางใหม่ ๆ ในทุก ๆ ปี หรือ ทุก ๆ 6 เดือน

การพัฒนาระบบค่าตอบแทนให้ยืดหยุ่นและสามารถปรับปรุงได้ทันเวลาเป็นปัจจัยสำคัญที่ HR ต้องพิจารณาอย่างจริงจัง เพราะการยึดติดกับโครงสร้างเดิม ๆ ที่ไม่ทันสมัยอาจทำให้องค์กรพลาดโอกาสในการดึงดูดและรักษาพนักงานคนเก่ง การปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งจำเป็น

HR ต้องมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างค่าจ้างและสวัสดิการตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานและความต้องการของพนักงาน นอกจากการเพิ่มเงินเดือนแล้วยังควรมีการพิจารณาสวัสดิการอื่นๆ เช่น การให้สิทธิพิเศษต่างๆ, การจัดโปรแกรมการอบรมและพัฒนาทักษะ, และการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและมีความยืดหยุ่น รวมถึงการปรับช่วงเงินเดือนตามความสามารถและผลงานของพนักงาน

การมีระบบที่ยืดหยุ่นยังช่วยให้ HR สามารถตอบสนองต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและการทำสำรวจค่าตอบแทนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ HR สามารถตั้งค่าตอบแทนที่เป็นธรรมและแข่งขันได้ในตลาด

ในยุคที่การทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ระบบค่าตอบแทนที่สามารถปรับตัวได้จะช่วยให้องค์กรมีความคล่องตัวและสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน.

 

3. เตรียมพร้อมสำหรับความโปร่งใสด้านค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้น

ความโปร่งใสด้านค่าตอบแทนไม่ใช่แนวโน้มในอนาคตอีกต่อไป แต่มันเกิดขึ้นแล้ว ในหลายประเทศมีการออกกฎหมายความโปร่งใสด้านค่าตอบแทนมากขึ้น บริษัทต่างๆ ต้องเตรียมพร้อมที่จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับระบบการจ่ายค่าตอบแทนของตน กับทั้งพนักงานปัจจุบัน และพนักงานที่คาดหวัง ความโปร่งใสด้านค่าตอบแทนส่งเสริมความเป็นธรรม แต่ก็หมายความว่าองค์กรต้องมีโครงสร้างค่าตอบแทนที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนและสามารถอธิบายได้ การไม่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังใหม่เหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของคุณ นำไปสู่ความยากลำบากในการรักษาคนเก่ง องค์กรควรพร้อมที่จะเปิดเผยช่วงค่าตอบแทนและชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการตัดสินใจเรื่องค่าตอบแทน

ความโปร่งใสในที่นี้ไม่ได้แปลว่า เป็นการบอกตัวเลขเงินเดือนของพนักงานให้ทุกคนทราบ แต่เป็นการบอกว่า ระบบของเรามีขั้นตอนและที่มาที่ไปอย่างชัดเจน อธิบายได้อย่างเป็นขั้นตอน และมีเหตุผลชัดเจนมากกว่า

การสร้างความโปร่งใสในกระบวนการบริหารค่าตอบแทนเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับ HR ในการสร้างความไว้วางใจและการยอมรับจากพนักงาน การทำงานในห้องปิดตายโดยไม่สื่อสารอะไรเลยกับพนักงาน ทำให้พนักงานรู้สึกอึมครึมและขาดความมั่นใจในระบบค่าตอบแทนขององค์กร การสื่อสารอย่างเปิดเผยและโปร่งใสเกี่ยวกับขั้นตอนและเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจเรื่องค่าตอบแทนช่วยให้พนักงานเข้าใจและยอมรับได้ดียิ่งขึ้น

HR ควรจัดทำและสื่อสารระบบค่าตอบแทนที่ชัดเจน โดยอธิบายถึงวิธีการกำหนดค่าตอบแทน การปรับเงินเดือน และสวัสดิการต่างๆ อย่างละเอียด เป็นขั้นตอนที่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งจะช่วยลดความไม่พอใจและความเครียดในหมู่พนักงาน นอกจากนี้ ควรเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเสนอแนวคิดหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับระบบค่าตอบแทน เพื่อให้พวกเขารู้สึกมีส่วนร่วมและมีความสำคัญในองค์กร

การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างค่าตอบแทนยังช่วยให้พนักงานสามารถเห็นภาพรวมและเข้าใจถึงเหตุผลในการตัดสินใจเกี่ยวกับค่าตอบแทนของตนเองมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีความพยายามในการพัฒนาตนเองและมุ่งมั่นในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ความโปร่งใสในการบริหารค่าตอบแทนยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าองค์กรให้ความสำคัญกับความเป็นธรรมและความเท่าเทียมในการปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนอย่างไร

 

4. พร้อมที่จะเล่าเรื่องราวค่าตอบแทนของคุณ

ทุกองค์กรมีเรื่องราวเกี่ยวกับค่าตอบแทน มันคือเรื่องราวที่บอกถึงวิธีการในการ จัดสรร และจัดการค่าตอบแทนภายในบริษัทของเรา ไม่ว่าจะพูดคุยกับพนักงานใหม่ที่มีศักยภาพหรือตอบสนองต่อการตรวจสอบภายใน การสามารถสื่อสารเหตุผลเบื้องหลังแนวปฏิบัติด้านค่าตอบแทนของคุณอย่างชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญ เรื่องราวค่าตอบแทนที่สร้างขึ้นอย่างดีนี้ จะช่วยสร้างความไว้วางใจกับพนักงานและแสดงให้เห็นว่าองค์กรของคุณให้คุณค่ากับความเป็นธรรมและความโปร่งใส ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่เป็นเรื่องของวิธีที่คุณนำเสนอตัวเลขเหล่านั้นในบริบทของค่านิยมและภารกิจของบริษัทของคุณ

เรื่องราวเหล่านี้ เราสามารถนำมาจากของจริงในบริษัท เช่น พนักงานคนเก่งของเรา เขาได้ค่าตอบแทนอย่างไร ที่เป็นธรรม และตอบโจทย์ด้านผลงานอย่างไร ทำให้เกิดผลลัพธ์อย่างไรบ้าง รวมถึงแต่ละปี เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับการปรับปรุง นำเสนอระบบค่าตอบแทนใหม่ ๆ อย่างไรบ้าง เป็นต้น

เมื่อสร้างเรื่องราวค่าตอบแทนขององค์กร จำเป็นต้องเล่าถึงประสบการณ์จริงของพนักงานที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นคนเก่งในองค์กร ว่าระบบค่าตอบแทนของเราทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้อย่างไร ตัวอย่างเช่น พนักงานคนหนึ่งที่ได้รับการยอมรับจากผลงานที่ยอดเยี่ยม ผลตอบแทนที่สอดคล้องกับความทุ่มเทของเขาส่งผลให้เขามีแรงจูงใจในการทำงานมากยิ่งขึ้น และยังเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพนักงานคนอื่นๆ

การเล่าเรื่องราวเหล่านี้ไม่เพียงแค่การบอกเล่าตัวเลขหรือผลลัพธ์ แต่ยังต้องการสื่อสารถึงคุณค่าและวัฒนธรรมขององค์กรที่เน้นความเป็นธรรมและความโปร่งใส การเปิดโอกาสให้พนักงานได้เสนอแนะและมีส่วนร่วมในกระบวนการบริหารค่าตอบแทน ช่วยสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของและความภูมิใจในองค์กรด้วย

HR ต้องมีความพร้อมในการเล่าเรื่องราวเหล่านี้ ทั้งในการสื่อสารกับพนักงานปัจจุบันและพนักงานใหม่ การสร้างเรื่องราวที่เป็นจริงและมีมูลค่า ช่วยสร้างความมั่นใจและความไว้วางใจในระบบค่าตอบแทนขององค์กร เมื่อเรื่องราวเหล่านี้ถูกเล่าออกไป จะช่วยสร้างความเข้าใจและยอมรับได้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญที่องค์กรให้ความสำคัญกับการปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม

 

5. เตรียมความพร้อมของผู้นำและผู้จัดการ

การสื่อสารเกี่ยวกับค่าตอบแทนมักเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน แต่เป็นสิ่งสำคัญที่พนักงานต้องเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังค่าตอบแทนของพวกเขา ผู้จัดการควรได้รับเครื่องมือและการฝึกอบรมเพื่อพูดคุยเรื่องค่าตอบแทนอย่างโปร่งใสและมั่นใจ การสนทนาอย่างเปิดเผยและสม่ำเสมอสามารถช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับแนวปฏิบัติด้านค่าตอบแทนและช่วยให้พนักงานรู้สึกมีส่วนร่วมและมีคุณค่ามากขึ้น การเตรียมผู้นำของคุณให้พร้อมสำหรับการสนทนาเหล่านี้จะช่วยสร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจและความโปร่งใส ซึ่งสามารถช่วยลดอัตราการลาออกและเพิ่มความพึงพอใจในงาน

ควรจะมีการอบรมพัฒนาเทคนิคในการเล่าเรื่อง การนำเสนอเรื่องราวที่ละเอียดอ่อน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเชิงลบตามมา สนับสนุนให้ผู้จัดการสื่อสารเรื่องค่าตอบแทนของพนักงานแต่ละคนได้ โดยตั้งกรอบที่ชัดเจนไว้ว่าต้องสื่อสารอย่างไร มีเทคนิคอย่างไร ในการสื่อสาร เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในเชิงลบในความรู้สึกของพนักงาน

การเตรียมความพร้อมของผู้นำและผู้จัดการในองค์กรต้องได้รับการประสานงานไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้การบริหารค่าตอบแทนเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ผู้นำและผู้จัดการต้องมีความเข้าใจที่ตรงกันเกี่ยวกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านค่าตอบแทน เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในสายตาของพนักงาน ความสอดคล้องและความร่วมมือระหว่างผู้นำและผู้จัดการเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในระบบค่าตอบแทนขององค์กร

การฝึกอบรมและการพัฒนาเทคนิคในการสื่อสารเรื่องค่าตอบแทนจะช่วยให้ผู้นำและผู้จัดการสามารถสื่อสารกับพนักงานได้อย่างชัดเจนและมั่นใจ เพื่อให้พนักงานเข้าใจถึงเหตุผลเบื้องหลังค่าตอบแทนของพวกเขา การสื่อสารที่โปร่งใสและเปิดเผยจะช่วยสร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจและความโปร่งใสในองค์กร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่าและมีส่วนร่วมในการทำงาน

การสร้างกรอบการสื่อสารที่ชัดเจนและการฝึกอบรมผู้จัดการให้มีทักษะในการนำเสนอเรื่องราวที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับค่าตอบแทน จะช่วยป้องกันผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นในความรู้สึกของพนักงาน การสนับสนุนให้ผู้จัดการสามารถพูดคุยเรื่องค่าตอบแทนของพนักงานแต่ละคนได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ จะช่วยสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจในระบบค่าตอบแทนขององค์กร

 

6. เรียนรู้จากประสบการณ์

ท้ายที่สุด การรักษาความทันสมัยของค่าตอบแทนหมายถึงการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจากประสบการณ์ในอดีตและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม ค่าตอบแทนไม่ใช่กระบวนการ "ตั้งค่าแล้วลืม" องค์กรควรทบทวนแนวปฏิบัติด้านค่าตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ประเมินประสิทธิผล และปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น กระบวนการที่ทำซ้ำนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่ากลยุทธ์ด้านค่าตอบแทนของคุณยังคงสอดคล้องกับทั้งสภาวะตลาดและเป้าหมายทางธุรกิจภายใน แนวทางที่มองไปข้างหน้าช่วยสร้างแผนค่าตอบแทนที่สมจริงและยั่งยืนในระยะยาว

การเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสำคัญมากในกระบวนการบริหารค่าตอบแทน การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ผลและสิ่งที่ไม่ได้ผลจะช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงและพัฒนาระบบค่าตอบแทนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ค่าตอบแทนไม่ใช่ระบบที่ทำครั้งเดียวจบ แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนและอัปเดตอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดและเป้าหมายทางธุรกิจภายใน

การเรียนรู้จากประสบการณ์ไม่เพียงแต่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับปรุงแนวปฏิบัติด้านค่าตอบแทนได้ แต่ยังช่วยสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจในหมู่พนักงาน ความโปร่งใสในการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนและการเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ จะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของและความภูมิใจในองค์กรมากยิ่งขึ้น

เพื่อให้กระบวนการนี้มีประสิทธิภาพ องค์กรควรมีการทบทวนและประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงค่าตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ การเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากประสบการณ์และการปฏิบัติที่ผ่านมา จะช่วยให้องค์กรสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและสร้างกลยุทธ์ที่สมเหตุสมผลและยั่งยืนในระยะยาว

โดยสรุป เมื่อแรงงานยังคงพัฒนาต่อไป แนวปฏิบัติด้านค่าตอบแทนก็ต้องพัฒนาตามไปด้วย ด้วยการอ่านตลาด รักษาความยืดหยุ่น ยอมรับความโปร่งใส เล่าเรื่องราวค่าตอบแทนที่ชัดเจน เตรียมพนักงานให้พร้อมที่จะเข้าใจเรื่องราวนั้น และเรียนรู้จากประสบการณ์ องค์กรสามารถทำให้มั่นใจได้ว่าแนวปฏิบัติด้านค่าตอบแทนของพวกเขายังคงมีความสามารถในการแข่งขันและเป็นธรรม การนำหกขั้นตอนนี้ไปใช้จะช่วยให้ผู้นำด้านทรัพยากรบุคคลสามารถนำทางในภูมิทัศน์ค่าตอบแทนที่เปลี่ยนแปลงและสนับสนุนความสำเร็จในระยะยาวของธุรกิจของพวกเขา